เจตนารมณ์ของข้อบังคับนี้เพื่อมิให้ทนายความประกอบวิชาชีพด้วยวิธีการอย่างธุรกิจการค้า ที่มุ่งจะหางานเข้าสำนักงาน เพื่อหารายได้ให้มากที่สุด การจัดให้มีนายหน้าหรือมีบำเหน็จในการหาคดีให้ทนายความนั้น ย่อมทำให้นายหน้าหรือลูกจ้างที่มุ่งหวังจะได้ค่านายหน้า หรือค่าบำเหน็จดังกล่าว จะหาวิธีการต่างๆ นาๆ ที่จะให้ได้คดีมาให้แก่ทนายความ เช่น อาจจะชักชวนโดยการโอ้อวดว่าทนายความมีความสามาถมากกว่าทนายความคนอื่น หรือสามารถวิ่งเต้นคดีให้ได้ชนะคดีอย่างแน่นอน
---------------------
ความผิดในข้อนี้แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
- ยินยอมตกลงหรือให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ค่านายหน้าหรือบำเหน็จรางวัลใดๆ แก่ผู้ที่หาคดีความมาให้ ซึ่งหมายความว่า คนที่หาคดีมาให้ทนายความจะได้รับค่านายหน้าหรือบำเหน็จรางวัลเมื่อหาคดีมาให้ได้เท่านั้น ค่านายหน้า หรือบำเหน็จรางวัลนี้จะเป็นเงิน หรือทรัพย์สินอื่น หรือผลประโยชน์อื่น ก็เป็นความผิดตามข้อนี้ ในหลักการประกอบวิชาชีพของทนายความนั้น ทนายความจะต้องให้ลูกความไปพบตนที่สำนักงานทนายความ และสมัครใจมอบคดีให้ด้วยความนับถือและไว้วางใจในความรู้ความสามารถของทนายความ ไม่ใช่การชักนำชักชวนหรือโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหวังค่าตอบแทนความผิดอีกลักษณะหนึ่งคือ
- ทนายความจัดให้มีคนประจำสำนักงานดำเนินการจัดหาคดีความมาให้ว่า โดยทนายความผู้นั้นคิดดค่าส่วนลดของค่าจ้างให้ หรือให้เงินเดือน หรือเงินจำนวนหนึ่งจำนวนใด หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อย่างใดๆ เช่น โบนัส หรือตำแหน่งงานที่สูงขึ้นให้แก่ผู้ที่หาคดีความมาให้นั้น แม้บุคคลผู้หาคดีความให้โดยลักษณะดังกล่าวจะเป็นเสมียนหรือลูกจ้างประจำสำนักงานของทนายความผู้นั้นก็ตาม