นาวิน ขำแป้น

[ทนายความ]

วางเพลิงเผาทรัพย์ของตนเองที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ไม่มีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 5710/2541) อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เพราะทรัพย์ที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยเป็นองค์ประกอบหนึ่งในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358

ถูกใจ!
กดถูกใจเป็นคนแรกสิ!

นาวิน ขำแป้น

[ทนายความ]


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217    มาตรา ๒๑๗
    ผู้ใดวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218    มาตรา ๒๑๘
    ผู้ใดวางเพลิงเผาทรัพย์ดังต่อไปนี้
    (๑) โรงเรือน เรือ หรือแพที่คนอยู่อาศัย
    (๒) โรงเรือน เรือ หรือแพอันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า
    (๓) โรงมหรสพหรือสถานที่ประชุม
    (๔) โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามศาสนา
    (๕) สถานีรถไฟ ท่าอากาศยานหรือที่จอดรถหรือเรือสาธารณะ
    (๖) เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ อันมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป อากาศยาน หรือรถไฟที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ
    ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 5710 / 2541
จำเลยจุดไฟใหม้บ้านที่ตนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 เป็นเหตุฉกรรจ์ของ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 โดย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 บัญญัติให้ผู้กระทำความผิดต่อทรัพย์ที่ระบุไว้ ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 (1) ถึง (6) ต้องได้รับโทษหนักขึ้น ดังนั้น การกระทำอันมิได้เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 แม้กระทำต่อทรัพย์ที่ระบุใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิด เมื่อ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 บัญญัติไว้แต่เพียงว่าการวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นเป็นความผิดโดยไม่มีข้อความว่า "หรือผู้อื่น เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย" ก็เป็นความผิดแล้ว จึงต้อง ตีความคำว่า "ทรัพย์ของผู้อื่น" โดยเคร่งครัด เพราะการตีความบทกฎหมายที่มีโทษทางอาญามิอาจตีความขยายความออกไปให้รวมถึงทรัพย์ที่ผู้อื่นมีส่วนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เพื่อให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยหรือผู้ต้องหาได้ ฉะนั้น เมื่อจำเลยเป็นเจ้าของบ้านเกิดเหตุรวมอยู่ด้วย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 และย่อมไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 (1)

ถูกใจ!
กดถูกใจเป็นคนแรกสิ!