นาวิน ขำแป้น
[ทนายความ]
วันที่เพิ่ม : วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 21:45:50
ปรับปรุงล่าสุด : วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 21:45:50
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา ๘๓
ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 มาตรา ๒๒๕
ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย หรือการกระทำโดยประมาทนั้นน่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 6764 / 2545คำพิพากษาย่อสั้น
การกระทำความผิดโดยประมาทเป็นการกระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา จึงไม่อาจมีการร่วมกันกระทำในลักษณะที่เป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ประกอบมาตรา 83 นั้น ไม่ถูกต้อง แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา แต่ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 , 83
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายทั้งสองยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 2 ปี
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบน่าเชื่อว่าไฟที่เกิดจากกองไม้ที่จำเลยทั้งสองเผาได้ลุกลามเข้าไปทางกอไผ่แล้วลุกไหม้สวนยางพาราของโจทก์ร่วมทั้งสองซึ่งอยู่ติดกัน แม้จำเลยทั้งสองเผากองไม้ในที่ดินของบิดาจำเลยที่ 1 แต่ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงหน้าแล้งและติดกับที่ดินของบิดาจำเลยที่ 1 มีสวนยางพาราของผู้อื่นอยู่ด้วย จำเลยทั้งสองควรจะใช้ความระมัดระวังป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไหม้ทรัพย์สินของผู้อื่น แต่จำเลยทั้งสองหาได้ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดตามฟ้อง
อนึ่ง การกระทำความผิดโดยประมาทเป็นการกระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา จึงไม่อาจมีการร่วมกันกระทำในลักษณะที่เป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ประกอบมาตรา 83 และศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน นั้นไม่ถูกต้อง แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาแต่ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับจำเลยทั้งสองคนละ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสองคนละ 2 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติรวม 6 ครั้ง ตามที่พนักงานคุมประพฤติกำหนด ให้จำเลยทั้งสองกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์มีกำหนด 20 ชั่วโมง ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งสองเห็นสมควร นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9
ผู้พิพากษา
สบโชค สุขารมณ์
ชูชาติ ศรีแสง
ธีระวัฒน์ ภัทรานวัช
กดถูกใจเป็นคนแรกสิ!