นาวิน ขำแป้น
[ทนายความ]
วันที่เพิ่ม : วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 03:27:48
ปรับปรุงล่าสุด : วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 03:02:05
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 มาตรา ๓๒๖
ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 มาตรา ๓๒๘
ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 1612 / 2564การแจ้งหรือไขข่าวลงในกลุ่มไลน์ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ผิดหมิ่นประมาท
ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ผู้กระทำต้องเผยแพร่ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทออกไปยังสาธารณะชนหรือประชาชนทั่วไป การที่จำเลยส่งข้อความลงในแอปพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์ นี้เท่านั้นจึงยังไม่ถึงกับเป็นการกระจายข่าวไปสู่สาธารณะชนหรือประชาชนทั่วไปการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 คงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
คำพิพากษาฎีกาที่ 1612/2564
พนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี โจทก์
นาย บ. โจทก์ร่วม
นาย ช. จำเลย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เรื่อง อุทธรณ์ฎีกา ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (มาตรา 218)
แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้ไขทั้งบทลงโทษและกำหนดโทษ อันเป็นการแก้ไขมาก แต่เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า ที่จำเลยส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มไลน์มีลักษณะเป็นเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์เท่านั้นเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ฎีกาของโจทก์ทำนองว่ามิได้มีเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในไลน์เท่านั้น เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าว ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ผู้กระทำต้องเผยแพร่ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทออกไปยังสาธารณชนหรือประชาชนทั่วไป จำเลยส่งข้อความลงในแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์เท่านั้น ยังไม่ถึงกับเป็นการกระจายข่าวไปสู่สาธารณชนหรือประชาชนทั่วไป การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาประกาศให้ประชาชนทั่วไปทราบด้วยตัวอักษร โดยการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทางอินเทอร์เน็ตผ่านสังคมออนไลน์ในแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "เพื่อน.พฤกษา.20" โดยทำให้ปรากฎข้อความอักษรใส่ความนาย บ. ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้เสียหายคนหนึ่งในบรรดาผู้เสียหายจำนวนหลายคนที่ถูกจำเลยใส่ความเผยแพร่ให้แก่นางสาว ด. นาย ก. และบุคคลผู้เป็นสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวซึ่งเป็นบุคคลที่สามซึ่งสามารถเห็นและอ่านข้อความบทสนทนาได้ โดยข้อความเท็จดังกล่าวมีเนื้อหาใส่ความว่า "แผนที่ให้คนของตัวเองมาเป็นประธานหรือหัวหน้า 48 คน ก็เพราะซูเอี๋ยระหว่างผู้มีอำนาจในเทศบาลกับบริษัทพฤกษา ซึ่งเงินก้อนใหญ่ ประมาณ 20 ล้าน ก็จะหายไปกับสายลมทั้งๆ ที่บริษัทพฤกษาต้องนำมาปรับปรุงถนน ท่อระบายและอื่นๆ จากนั้นเมื่อโอนเรียบร้อยเทศบาลก็หางบประมาณลงมาทำให้เพราะตอนนี้พฤกษา 20 ยังไม่โอน เทศบาลยังกล้าทำแผนพัฒนาเตรียมงบมาลง" ซึ่งทำให้บุคคลที่สามและบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจว่าผู้เสียหายมีพฤติกรรมที่ทุจริตเงินแผ่นดิน มีการสมยอมกับบริษัทเอกชนยักยอกเงินหลวง จำนวน 20 ล้านบาท แล้วนำมาแบ่งกันระหว่างผู้เสียหายกับบริษัทเอกชนดังกล่าว อันเป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังจากผู้อ่านหรือประชาชนทั่วไปได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นาย บ. ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต และโจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่จำเลยกระทำความผิดจนกว่าจะชำระเสร็จจำเลยให้การในคดีส่วนแพ่งว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 จำคุก 2 ปีให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ลงโทษปรับ 20,000 บาท
สถานเดียว ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งในศาลชั้นต้นให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ปรากฎว่าโจทก์ฎีกาทั้งปัญหาข้อกฎหมายและปัญหาข้อเท็จจริง กล่าวคือ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมนำมาสืบรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 จำคุก 2 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติว่าโจทก์ร่วมเป็นนายกเทศมนตรีเมืองลำสามแก้ว ส่วนจำเลยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองลำสามแก้ว เขต 2 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 บริษัทพฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) มีหนังสือถึงสภาเทศบาลเมืองลำสามแก้ว ขอให้พิจารณารับโอนที่ดินแปลงสาธารณูปโภคโครงการบ้านพฤกษา 20 เป็นสาธารณประโยชน์และอยู่ในพื้นที่การปกครองดูแลของเทศบาลเมืองลำสามแก้ววันที่ 25 พฤษภาคม 2559 ที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองลำสามแก้วมีมติเห็นชอบรับโอนที่ดินแปลงสาธารณูปโภคโครงการบ้านพฤกษา 20 ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่เทศบาลเมืองลำสามแก้ว วันที่ 27 มกราคม 2560 โจทก์ร่วมในฐานะนายกเทศมนตรีเมืองลำสามแก้วมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการบริการสาธารณะหมู่บ้านพฤกษา 20 จำนวน 48 คน นาย ช. เป็นผู้พักอาศัยในหมู่บ้านพฤกษา 20 และเป็นผู้ตั้งกลุ่มในแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อ "เพื่อน.พฤกษา.20" จำเลยเป็นหนึ่งในสมาชิกจำนวน 344 คน ของแอปพลิเคชันไลน์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 จำเลยส่งข้อความเข้าไปในแอปพลิเคชันไลน์ดังกล่าวว่า "แผนที่ให้คนของตัวเองมาเป็นประธานหรือหัวหน้า 48 คน ก็เพราะซูเอี๋ยระหว่างผู้มีอำนาจในเทศบาลกับบริษัทพฤกษาซึ่งเงินก้อนใหญ่ประมาณ 20 ล้าน ก็จะหายไปกับสายลมทั้งๆ ที่บริษัทพฤกษาต้องนำมาปรับปรุงถนน ท่อระบายและอื่นๆ จากนั้นเมื่อโอนเรียบร้อยเทศบาลก็หางบประมาณลงมาทำให้ เพราะตอนนี้พฤกษา 20 ยังไม่โอน เทศบาลยังกล้าทำแผนพัฒนาเตรียมงบมาลง" ต่อมา นาวาอากาศเอก ก. ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานบริหารจัดการบริการสาธารณะหมู่บ้านพฤกษา 20 ส่งข้อความดังกล่าวเข้าไปในกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อ "พฤกษา 20 เฟส 1 " ซึ่งมีนาย ก. หัวหน้าคณะทำงานดังกล่าวเป็นสมาชิกอยู่ด้วย นาย ก. บันทึกหน้าจอข้อความดังกล่าวแล้วส่งต่อให้แก่นางสาว ด. รองนายกเทศมนตรีเมืองลำสามแก้ว นางสาว ด.ส่งข้อความดังกล่าวต่อให้แก่โจทก์ร่วม แล้วศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยต่อไปว่า การที่จำเลยส่งข้อความเข้าไปในแอปพลิเคชันไลน์กลุ่ม เพื่อน.พฤกษา.20 มีลักษณะเป็นเพียงเจตนาแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าวไม่ถึงกับเป็นการกระจายข่าวไปสู่สาธารณชนหรือประชาชนทั่วไปการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 พิพากษาแก้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ลงโทษปรับ 20,000 บาท สถานเดียว โจทก์ฎีกาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 328 ด้วย โดยฎีกาทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมายรวมกันมา กล่าวคือฎีกาว่า การที่จำเลยส่งข้อความดังกล่าวทางแอปพลิเคชันไลน์ในกลุ่มชื่อ เพื่อน.พฤกษา.20 ปรากฎว่ามีสมาชิกในกลุ่มถึง 344 คน ถือว่าเป็นกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ที่มีสมาชิกจำนวนมากผู้ที่รับข้อความหมิ่นประมาทจึงมีจำนวนมากเหมือนการโพสต์ข้อความแบบสาธารณะ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมอย่างแพร่หลาย อีกทั้งกลุ่มไลน์ดังกล่าวก็อาจเพิ่มจำนวนได้โดยการรับเพื่อนเพิ่มเติมเข้ามาได้อีกถ้ามิใช่กลุ่มปิด ข้อความที่ส่งก็จะคงอยู่ในไลน์นั้นตลอดไปหากมีผู้เซฟข้อความเอาไว้ ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าข้อความนั้นอาจมีผู้อื่นอ่านได้ถึง 344 คน หรือมากกว่านั้นถ้าสมาชิกในกลุ่มส่งข้อความให้บุคคลภายนอกกลุ่มผู้รับข้อความก็จะเพิ่มมากขึ้นได้อีก การส่งข้อความในไลน์กลุ่มจึงมิใช่การไขข่าวเฉพาะกลุ่ม แต่มีบุคคลภายนอกกลุ่มอาจรับรู้ได้ด้วย และกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกในกลุ่มเป็นจำนวนมากถึงพันคนหรือหมื่นคนก็มี ทั้งบุคคลในกลุ่มก็อาจไม่ได้รู้จักกันทุกคน การส่งข้อความทางกลุ่มไลนซึ่งมีสมาชิกจำนวนมากอาจมีผู้อ่านไลน์มากกว่าการโพสต์แบบสาธารณะเสียอีก จำเลยย่อมเล็งเห็นผลและประสงค์ต่อผลในการกระทำของตนได้ว่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการโฆษณาต่อสาธารณชน การส่งข้อความของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำต่อสาธารณชนโดยการโฆษณาอันเป็นความผิดตามมาตรา 328 แล้วนั้น เห็นว่า แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้ไขทั้งบทลงโทษและกำหนดโทษ อันเป็นการแก้ไขมากก็ตาม แต่เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าที่จำเลยส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มไลน์นี้มีลักษณะเป็นเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์นี้เท่านั้นเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง การที่โจทก์ฎีกาดังกล่าวเป็นการฎีกาทำนองว่ามิได้มีเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในไลน์นี้เท่านั้นเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าว ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงส่วนที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ที่ฎีกาว่า การที่จำเลยส่งข้อความดังกล่าวทางแอปพลิเคชันไลน์ในกลุ่มชื่อเพื่อน.พฤกษา.20 ซึ่งมีสมาชิกกลุ่มถึง 344 คน ถือว่าเป็นกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกจำนวนมาก ผู้ที่รับรู้ข้อความหมิ่นประมาทจึงมีจำนวนมากเหมือนการโพสต์ข้อความแบบสาธารณะซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมอย่างแพร่หลายนั้น เห็นว่า ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ผู้กระทำต้องเผยแพร่ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทออกไปยังสาธารณชนหรือประชาชนทั่วไป การที่จำเลยส่งข้อความลงในแอปพลิเคชันไลน์นี้ ซึ่งข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับฟังมาดังกล่าวแล้วว่ามีลักษณะเป็นเพียงเจตนาการแจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มไลน์นี้เท่านั้น ดังนั้น จึงยังไม่ถึงกับเป็นการกระจายข่าวไปสู่สาธารณชนหรือประชาชนทั่วไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ในส่วนปัญหาข้อกฎหมายนี้ ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน
(ประทีป ดุลพินิจธรรมา โสภณ บางยี่ขัน กษิดิศ มงคลศิริภัทรา)
กดถูกใจเป็นคนแรกสิ!