นาวิน ขำแป้น

[ทนายความ]


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337    มาตรา ๓๓๗
    ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกรรโชก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
    ถ้าความผิดฐานกรรโชกได้กระทำโดย
    (๑) ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส หรือขู่ว่าจะทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือ
    (๒) มีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ
    ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 1278 / 2503 (ประชุมใหญ่)

จำเลยเขียนจดหมายไปขู่เข็ญ ป. ว่าให้ ป. ส่งเงินให้จำเลย 3,000 บาท มิฉะนั้น ส. บุตรของ ป. จะเป็นอันตรายแก่ชีวิต ป. ยอมส่งเงินไปให้ ปรากฏว่าความจริงจำเลยกับ ฮ. สมคบกันเขียนจดหมายไปขู่ ป. โดยมิได้ตั้งใจจะมีการทำร้าย ฮ. จริงศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า แม้จะได้ความว่า บุตรของ ป. เองเป็นคนบอกให้จำเลยเขียนจดหมายไปขู่เข็ญบิดาเพื่อหลอกลวงให้บิดาส่งเงินมาให้ก็ยังถือว่า ป. ถูกข่มขืนใจ จำเลยจึงมีความผิดฐานกรรโชก
ข้อสังเกต
จุดที่เป็นปัญหาในอุทธาหรณ์นี้ก็คือ ฮ. ซึ่งเป็นคนที่จะถูกทำร้ายตามคำขู่นั้นเป็นตัวการในการกระทำผิดเสียเอง ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นการขู่จะทำร้ายผู้ถูกขู่หรือบุคคลที่สาม จึงไม่น่าจะเป็นกรรโชก แต่ศาลฎีกาพิจารณาทางด้านความเข้าใจของผู้ถูกขู่ว่า ถ้าผู้ถูกขู่เข้าใจว่า จะมีบุคคลที่สามถูกทำร้าย แม้จะไม่ใช่ความจริง ก็ต้องถือว่าเข้าองค์ประกอบเรื่องกรรโชกแล้ว
อนึ่งกรณีที่ผู้รับประโยชน์กับบุคคลที่สาม ซึ่งจะได้รับอันตราย อาจเป็นบุคคลเดียวกันก็ได้ แต่ต้องมิใช่เป็นผู้ถูกข่มขืนใจ
ตัวอย่าง
เขียวส่งจดหมายไปขู่ม่วงให้ส่งเงินไปให้ส้ม 10,000 บาท มิฉะนั้น เขียวจะทำลายส้ม ม่วงกลัวส้มถูกทำร้ายจึงรับว่ายอมจะทำตาม ทั้งนี้ส้มไม่ได้รู้เห็นเป็นตัวการร่วมกับเขียวด้วย เช่นนี้ เขียวก็มีความผิดฐานกรรโชกตามมาตรา 337

ถูกใจ!
กดถูกใจเป็นคนแรกสิ!